ปิเก้ ปีศาจแดง ย้อนเวลาถึงเมื่อครั้งย้ายไปค้าซบกับ ปีศาจแดง

  ปิเก้ ปีศาจแดง ผมได้กลับมาบ้านหลังที่ 2 อีกครั้ง ชีวิตผมในตอนนั้นเต็มไปด้วยสถานการณ์ยากลำบากมากมาย 

     ปิเก้ ปีศาจแดง ผมย้ายมาอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในฐานะเด็กน้อยคนหนึ่ง แต่จากมาอย่างลูกผู้ชายตัวจริง ตอนนั้นผมไม่มีความเป็นผู้ใหญ่เลยแม้แต่น้อย และด้วยความที่ออกไปอยู่ไกลบ้านครั้งแรกทำให้ตัวเองแทบเป็นบ้า

     “17 ปีแรกของชีวิต ผมโตขึ้นมาใน บาร์เซโลน่า แทงบอล เทคนิค เล่นฟุตบอลก็สโมสรประจำเมืองแห่งนี้ จนเป็นเด็กถิ่นที่คุ้นเคยกับพื้นที่ของตัวเองมาก ทุกคนรู้จักผมหมด ครอบครัวก็สนิทสนมกันดี ที่สำคัญคือเล่นฟุตบอลแค่เอาสนุกเฉย ๆ ไม่ได้คิดว่าจะใช้มันทำมาหากินได้อย่างทุกวันนี้เลยด้วยซ้ำ” 

     “เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน คือคนที่สำคัญมากสุดในชีวิตของผมอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเจอกับสถานการณ์ที่ยากลำบากแค่ไหนเขาก็จะอยู่เคียงข้างและสร้างความเชื่อมั่นให้จนคุณกลับมายืนได้ด้วยตัวเองอีกครั้งเสมอ ผมรักเขาเหมือนกับพ่อคนที่สอง เขาเป็นผู้มอบโอกาสให้กับชีวิตอย่างแท้จริง” ติดตามข่าวบอลเพิ่มเติม

เว็บแทงบอลออนไลน์ที่เล่นง่ายที่สุด คลิ๊กเลย www.ufaadd.com/แทงบอล-เทคนิค แนะนำเพื่อน รับฟรี 10% จากยอดฝากของเพื่อน

ศึกลูกหนัง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ลูกากูออร่าจับ!5นักเตะท็อปฟอร์มพรีเมียร์ลีกสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

    ศึกลูกหนัง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา อันถือเป็นแมตช์เดย์ที่ 29 ของฤดูกาล บรรดาทีมใหญ่อย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ เชลซี ต่างคว้าชัยชนะกันได้อย่างพร้อมเพรียง ขณะที่ ลิเวอร์พูล บุกไปเจ๊าจืดกับ เอฟเวอร์ตัน 

     ศึกลูกหนัง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ทีมคู่ปรับร่วมเมือง 0-0 จนตอนนี้เสียตำแหน่งจ่าฝูงให้กับ "เรือใบสีฟ้า" เรียบร้อย ส่วนศึก "นอร์ธ ลอนดอน ดาร์บี้" สุดมันส์ระหว่าง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ กับ อาร์เซน่อล ก็จบลงด้วยการเจ๊ากันไป 1-1 ชนิดที่มีดราม่าช่วงท้ายเกม... จะว่าไปถือเป็นสัปดาห์ที่มีนักเตะทำผลงานได้โดดเด่นหลายคนเลยทีเดียว ไม่ว่าจะอยู่กับสโมสรใหญ่หรือเล็ก แต่ที่ท็อปฟอร์มแบบสุดๆ ชนิดเข้าตาผู้เขียนจะมีใครบ้างนั้น ลองดูไปกัน เชื่อว่าคงตรงใจหลายๆ คน

    1. โรเมลู ลูกากู (คะแนนจาก whoscored.com : 8.9)

    ในแผงแนวรุกของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ช่วงนี้ ไม่มีใครร้อนแรงไปกว่า โรเมลู ลูกากู หัวหอกร่างยักษ์ชาวเบลเยียม อีกแล้ว เพราะตอนนี้เจ้าตัวได้กลายร่างจาก "ตู้เย็น" เป็น "ระเบิด" ที่พร้อมจะทำลายแนวรับทีมคู่แข่ง เพราะสองเกมหลังสุด เจ้าตัวกระทุ้งไปถึง 4 ลูก โดยเฉพาะในเกมล่าสุดเมื่อวันเสาร์ ที่ "ปีศาจแดง" เปิดบ้านเชือด เซาธ์แฮมป์ตัน แบบสุดระทึก 3-2 ลูกากู ก็โชว์ยิง 2 ตุงแบบงามๆ แถมเป็นการยิงด้วยเท้าขวา ซึ่งไม่ใช่ข้างถนัดด้วย เชื่อเหลือเกินว่า ช่วงนี้กุนซือ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา คงจะจับเจ้าตัวลงเล่นเป็นตัวจริงแบบต่อเนื่องแน่นอน เพราะนาทีนี้ ลูกากู ดูมีความมั่นใจชนิดเกินร้อย แถมทำประตูได้ทุกรูปแบบ

    2. เดแคลน ไรซ์ (คะแนนจาก whoscored.com : 8.5)

    ยิ่งเล่นยิ่งเก่งและโดดเด่นขึ้นเรื่อยๆ สำหรับ ไรซ์ เพราะในเกมที่ช่วย เวสต์แฮม เปิดบ้านอัด นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 2-0 นั้น เจ้าตัวทำหน้าที่ในแดนกลางได้เจ๋งสุดๆ และเหมาะสมแล้วที่ได้รางวัล "แมน ออฟ เดอะ แมตช์" เพราะแท็กเกิ้ลชนะถึง 6  หน แถมเป็นคนโหม่งทำประตูช่วยให้ทีมขึ้นนำ 1-0 ตั้งแต่นาทีที่ 7 ถ้ายังเล่นได้ดีแบบนี้ต่อไปเรื่องๆ ล่ะก็ ในอนาคตเจ้าตัวสามารถก้าวขึ้นมาเป็นกำลังหลักของทีมชาติอังกฤษได้เลย

    3. เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ (คะแนนจาก whoscored.com : 8.4)

    ช่วงที่เกมรุกของ ลิเวอร์พูล ดูฝืดๆ ไปและไร้ทีเด็ด ถือว่ายังโชคดีสำหรับพวกเขาที่มี ฟาน ไดค์ ยืนคุมแนวรับ เพราะถ้าไม่มีเขา บางเกมที่ "เสมอ" อาจจะกลายเป็น "แพ้" ก็ได้ อย่างในเกมล่าสุดที่บุกไปเสมอ เอฟเวอร์ตัน 0-0 ฟาน ไดค์ คือ "แมน ออฟ เดอะ แมตช์" ของเกมนี้ ด้วยสถิติเคลียร์บอลทิ้งได้ถึง 13 ครั้ง และชนะในการดวลลูกกลางอากาศ 12 หน แค่สถิติตรงนี้ก็ชี้ให้เห็นแบบชัดๆ ว่า ปราการหลังร่างใหญ่ชาวดัตช์วัย 27 ปี สำคัญต่อ ลิเวอร์พูล มากแค่ไหน และถ้าสุดท้ายแล้ว "หงส์แดง" สามารถคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก มาครองได้ล่ะก็ รางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลคงจะหนีไม่พ้น ฟาน ไดค์ แน่นอน ฟันธงได้เลย! เพราะแทบทุกเกมที่ผ่านมา ฟอร์มของเจ้าตัวมีมาตรฐานที่สูงมากๆ

 4 . อารอน วาน-บิสซาก้า (คะแนนจาก whoscored.com : 8.1)

    ไม่แปลกใจเลยจริงๆ ที่กำลังมีข่าวได้รับความสนใจจากยอดทีมเมืองเบียร์อย่าง บาเยิร์น มิวนิค เพราะช่วงนี้ วาน-บิสซาก้า ทำผลงานได้โดดเด่นมากในตำแหน่งแบ็กขวา อย่างในเกมล่าสุดเมื่อวันเสาร์ที่ พาเลซ บุกไปทุบ เบิร์นลี่ย์ 3-1 นั้น ฟูลแบ็กวัย 21 ปี เล่นได้ดีมากทั้งเกมรับและรุก เพราะนอกจากแท็กเกิ้ลชนะสวยๆ หลายครั้งแล้ว เกมนี้เจ้าตัวยังทำ 1 แอสซิสต์ จากการเปิดบอลให้ มิชี่ บาตชูอายี่ จบสกอร์เป็นประตู 2-0 ด้วย ซึ่งด้วยฟอร์มที่โดดเด่นแบบนี้ บางทีฤดูกาลหน้า พาเลซ อาจไม่มีเขาอยู่ในทีมแล้วก็ได้

    5. อาร์เทอร์ โบรุค (คะแนนจาก whoscored.com : 8.0)

    อูโก้ โยริส นายทวาร สเปอร์ส อาจจะเซฟลูกโทษช่วงทดเจ็บในเกมเจ๊ากับ อาร์เซน่อล 1-1 ได้ แต่ในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้รักษาประตูที่ท็อปฟอร์มสุดคือ อาร์เทอร์ โบรุค ของ บอร์นมัธ เพราะถ้าไม่มีเขา เกมเมื่อวันเสาร์ ทัพ "เดอะ เชอร์รี่ส์" คงไม่แพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วยสกอร์แค่ 0-1 แน่นอน เพราะเกมดังกล่าวเป็นเกมที่ "เรือใบสีฟ้า" เดินหน้าบุกแบบวันเวย์ของแท้ (โอกาสยิง 23 ต่อ 0) แต่ โบรุค ก็สามารถช่วยให้ บอร์นมัธ แพ้แค่ประตูเดียวเท่านั้น ด้วยสถิติเซฟ 8 ครั้ง ซึ่งถือว่ามากกว่านายทวารทุกคนที่ลงเล่นเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

อ่านข่าวบอลวันใหม่ บอลไทยบอลต่างประเทศเพิ่มเติม

แทงบอลออนไลนน์เว็บไหนดี แทงบอลออนไลน์ฟรีเครดิต

สิงห์บลู เชลซี สิงโตน้ำเงินครามงานเข้า!อาซาร์ไม่สนโดนแบนช็อปมุ่งย้ายทีมซัมเมอร์นี้

       สิงห์บลู เชลซี กรณีที่ เชลซี โดนสั่งห้ามช็อปนักเตะในตลาด 2 ช่วง เป็นปัจจัยที่ทำให้ เอแด็น อาซาร์ ปีกคนสำคัญอยากบอกลาทีมหนักกว่าเดิม ซึ่งทัพ "สิงโตน้ำเงินคราม" ก็อาจจะต้องปล่อยเขา หลังจากที่เจ้าตัวจะหมดสัญญากับทีมในช่วงซัมเมอร์ ปีหน้า

    สิงห์บลู เชลซี เอแด็น อาซาร์ ปีกคนเก่งของ เชลซี ยอดสโมสรแห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ มุ่งมั่นที่จะย้ายออกจากทีมมากกว่าเดิม หลังจากที่ต้นสังกัดของเขาโดนสั่งห้ามทำการซื้อนักเตะในตลาด 2 ช่วงต่อจากนี้ ตามรายงานของ เดอะ เทเลกราฟ สื่อชื่อดังของเมืองผู้ดี

    อาซาร์ ตกเป็นข่าวเกี่ยวกับการย้ายทีมมาโดยตลอด หลังจากที่มีรายงานว่า เรอัล มาดริด อยากได้เขาไปร่วมทีม ซึ่งแข้งชาวเบลเยียมก็มักจะให้สัมภาษณ์อยู่เรื่อยๆ ว่าใฝ่ฝันที่จะได้เล่นให้ "ราชันชุดขาว" มาตั้งแต่ยังเป็นเด็กแล้ว และบอกว่าจะประกาศถึงอนาคตของตัวเองให้คนรู้อย่างเป็นทางการหลังจบซีซั่นนี้

    ทั้งนี้ เชลซี เพิ่งโดนสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) สั่งห้ามเสริมทัพในตลาด 2 ช่วง หรือก็คือซัมเมอร์นี้ กับมกราคม ปีหน้า โทษฐานที่พวกเขาดึงนักเตะอายุต่ำกว่าเกณฑ์ไปร่วมทีมหลายราย ซึ่งสาวก "สิงโตน้ำเงินคราม" บางส่วนมองว่าเรื่องในครั้งนี้อาจจะทำให้ อาซาร์ ตัดสินใจอยู่ช่วยทีมต่อ ในช่วงเวลาที่พวกเขากำลังเจอกับความยากลำบาก อ่านข่าวบอลเพิ่มเติม

    อย่างไรก็ตาม ล่าสุด เดอะ เทเลกราฟ ระบุว่าเรื่องในครั้งนี้กลับทำให้ อาซาร์ อยากย้ายทีมในช่วงซัมเมอร์นี้มากกว่าเดิม ซึ่งทาง เชลซี ก็อาจจะไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องขายเขาออกไปเช่นกัน เพราะดาวเตะทีมชาติเบลเยียมจะหมดสัญญากับทีมในช่วงซัมเมอร์ ปีหน้าแล้ว

    นอกจากนี้ การรีบขาย อาซาร์ หลังจบฤดูกาลนี้มันก็จะช่วยเพิ่มงบประมาณการเสริมทัพให้ทีมในช่วงซัมเมอร์นี้ด้วย หลังจากที่ เชลซี เตรียมที่จะอุทธรณ์โทษแบนของ ฟีฟ่า จนทำให้บทลงโทษน่าจะยังไม่มีผลในช่วงซัมเมอร์นี้ นั่นหมายความว่าในช่วงก่อนเปิดฤดูกาล 2019-20 นั้น เชลซี จะสามารถช็อปนักเตะเพื่อเป็นการตุนเอาไว้ก่อนได้ ในกรณีที่อุทธรณ์ไม่ผ่านแล้วโดนแบนหลังจากเปิดซีซั่นหน้าไปแล้ว

แทงบอลสเต็ปง่ายได้เงินจริง คลิ๊ก  กติกา แทงบอล

อัลเลกรีดีใจดีบาล่ากลับมาทำประตูได้แล้ว...

     มัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรี นายใหญ่ ยูเวนตุส เปิดอก แฮปปี้ที่ เปาโล ดีบาล่า กลับมาหาประตูได้แล้ว พร้อมชมลูกทีมทุกคนที่กำลังทำผลงานได้ดีแบบต่อเนื่อง

    มัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรี เทรนเนอร์ ยูเวนตุส กล่าวว่ารู้สึกดีใจที่ เปาโล ดีบาล่า กองหน้าชาวอาร์เจนไตน์ทำประตูได้แล้ว หลังจากล่าสุดเขาช่วยให้ทีมเปิดรัง อัลลิอันซ์ สเตเดี้ยม เอาชนะ โฟรซิโนเน่ 3-0 ในเกม กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี เมื่อวันศุกร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา

    ทั้งที่ฤดูกาลก่อน ดีบาล่า โชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมจนยิงในลีกไป 22 ลูก แต่ซีซั่นนี้ผลงานของเขากลับตกลงอย่างน่าใจหาย ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะ อัลเลกรี โยกเขาไปอยู่ด้านข้างมากขึ้นเพื่อให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แข้งคนใหม่มาเล่นเป็นหัวหอกตัวหลักแทน โดยก่อนหน้านี้ ดีบาล่า ทำประตูในลีกไม่ได้เลย นับตั้งแต่เกมที่ ยูเวนตุส ชนะ กายารี่ 3-1 เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ขณะที่ประตูในนัดล่าสุดก็ถือเป็นเพียงลูกที่ 3 ที่เขาทำได้ในลีกประจำซีซั่นนี้

    "ผมดีใจแทน เปาโล เขาทำประตูที่สวยได้ และคนเป็นกองหน้าก็อยากทำแบบนั้นให้ได้อยู่เสมอ เราต้องการนักเตะที่เข้าใจรูปเกมได้อย่างละเอียดถี่ถ้วน และฤดูกาลนี้เราก็ต้องการนักเตะแบบนั้นมากเป็นพิเศษ  หลังจากที่เราใช้แผนกองหน้า 2 คน โดยที่เขาเป็นหนึ่งในนั้น มันอาจจะจำกัดโอกาสการทำประตูของเขานิดหน่อย แต่ไม่ใช่ในเรื่องของฟอร์มการเล่นเลย" กุนซือชาวอิตาเลียน ระบุ

    อัลเลกรี กล่าวชมลูกทีมทุกคนด้วยที่กำลังทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่อง "ใช่ เรากำลังอยู่ในสภาพที่ดี นอกจากเกมกับ ปาร์ม่า (เสมอ 3-3) แล้วนั้น เราก็ทำผลงานได้ดีเลย และเรากำลังเข้าสู่ช่วงสำคัญของฤดูกาลด้วย ความพยายามของทั้งทีมและทั้งส่วนบุคคลมันดีมากๆ"

ลีดส์บุกพังแต่ยังรั้งที่1โดนสโต๊คเปิดรังตัดหน้าหวิว

     "ยูงทอง" ลีดส์ ยูไนเต็ด จ่าฝูงลีกพลาดท่าปราชัยหลังโดน "ช่างปั้นหม้อ" สโต๊ค ชิตี้ เปิดบ้านเฉือนชัย 2-1 แต่ ลีดส์ ยังรั้งตำแหน่งหัวแถวของตารางคะแนนต่อไป ในศึกฟุตบอล เดอะ แชมเปี้ยนชิพ อังกฤษ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 19 ม.ค. ที่ผ่านมา

ฟุตบอล เดอะ แชมเปี้ยนชิพ อังกฤษ
วันเสาร์ที่ 19 มกราคม 2562
สโต๊ค 2   -   1 ลีดส์

สนาม : เบท 365 สเตเดี้ยม
    เนธาน โจนส์ กุนซือ ทัพช่างปั้นหม้อปรับแนวรุกส่ง เฟรเซอร์ แคมป์เบลล์ ลงยืนคู่ เบนิค อะโฟเบ้ รับมือจ่าฝูง ลีดส์

ซึ่งขาด คัลวิน ฟิลลิปส์ ติดแบนเกมที่ 3 นัดสุดท้ายกับ กีโก้ กาสตีย่า นายทวารตัวใหม่ที่ซื้อจาก เรอัล มาดริด นอกนั้นยึดตัวจริงชุดเดิม เคมาร์ รูฟ คอยทะลวงตาข่าย

    ลีดส์ ขยับเกมรุกเข้าใส่ทันที ปาโบล เอร์นานเดซ สบช่องกองหลังยืนห่างวางเท้าขวาซัดไกลนอกกรอบโทษบอลพุ่งเฉี่ยวเสาซ้ายแค่นิดเดียว

    นาที 15 ทีมเยือนยังครองบอลมากกว่า มาเตอุสซ์ คลิค ไหลบอลตัดแนวรับให้ ปาโบล เอร์นานเดซ หลุดเข้าเขตโทษส่องด้วยขวาหนีมือ แจ็ค บัตแลนด์ หลุดเสาขวาออกไป

    สโต๊ค เกือบขึ้นนำจากโอกาสจะแจ้งหนแรกนาที 21 ปีเตอร์ เอเตโบ ซัดไกล 25 หลาวิถีกำลังจะเสียบสามเหลี่ยมขวา เบลี่ย์ พีค็อค-ฟาร์เรลล์ พุ่งสุดมือปัดทิ้งหวุดหวิด

    นาที 35 เอ็กซิยาน อลิออสกี้ ที่ถอยไปเล่นแบ็กซ้ายดันขึ้นสูงไหลเข้าเขตโทษทางเสาใกล้ ปาโบล เอร์นานเดซ ตวัดยิงด้วยขวา แจ็ค บัตแลนด์ รับเข้าซอง
   
    กลับลงเล่นครึ่งหลัง 4 นาที ช่างปั้นหม้อขึ้นนำ 1-0 แซม คลูคาส ทะลุเข้าไปสับไกด้วยซ้ายในกรอบโทษฝั่งซ้ายบอลพุ่งเรียดเสียบโคนเสาไกลเข้าไป

    นาที 65 เกมจ่าฝูงเหมือนช็อตไปดื้อๆ เบนิค อะโฟเบ้ จ่ายบอลให้ แอชลี่ย์ วิลเลี่ยมส์ ส่องด้วยขวาในกรอบ 18 หลาติดเซฟ เบลี่ย์ พีค็อค-ฟาร์เรลล์

    7 นาทีต่อมา มาเตอุสซ์ คลิค ตั้งป้อมเปิดบอลโด่งเข้าหัว พอนตุส ยานส์สัน เทคตัวขึ้นโหม่งเต็มกบาลแต่กดไม่ลงบอลเหินข้ามคาน ก่อนแนวรับสวีเดนมาโดนใบเหลืองที่สองเป็นใบแดงไล่ออกไปอีก
    นาที 88 เจมส์ แม็คคลีน ไหลบอลไปถึง โจ อัลเลน ส่องมุมแคบด้วยขวาตุงตาข่าย สโต๊ค นำห่าง 2-0

    ช่วงทดเจ็บ เอ็กซิยาน อลิออสกี้ ยิงด้วยซ้ายในกรอบโทษซ้ายเข้ามุมโคนเสาไกลเป็นลูกตีไข่แตกแต่ก็ไล่ไม่ทัน จบเกม พลิกชนะจ่าฝูง ลีดส์ ที่เหลือ 10 คน 2-1
               
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
    สโต๊ค : แจ็ค บัตแลนด์ - มอริตซ์ เบาเออร์, ไรอัน ชอว์ครอสส์, แอชลี่ย์ วิลเลี่ยมส์, บรูโน่ มาร์ตินส์ อินดี้ - โจ อัลเลน, ชาร์ลี อดัม, ปีเตอร์ เอเตโบ, แซม คลูคาส - เบนิค อะโฟเบ้, เฟร์เซอร์ แคมป์เบลล์ (เจมส์ แม็คคลีน น.67)

    ลีดส์ : เบลี่ย์ พีค็อค-ฟาร์เรลล์ - ลุค อายลิ่ง, พอนตุส ยานส์สัน, เลียม คูเปอร์, เอ็กซิยาน อลิออสกี้  - อดัม ฟอร์ชอว์ - แจ็ค คล้าร์ก, มาเตอุสซ์ คลิค (จอร์แดน สตีเว่นส์ น.76), ปาโบล เอร์นานเดซ, แจ็ค แฮร์ริสัน (ไทเลอร์ โรเบิร์ตส์ น.61) - เคมาร์ รูฟ

ซาร์รี่ ยอมรับ อบราโมวิช ยังไม่ได้คุยอะไร ทำคาดเดาอนาคตกับ เชลซี ลำบาก

     เมาริซิโอ ซาร์รี่ กุนซือ เชลซี ยอมรับว่าเจ้าของสโมสร โรมัน อบราโมวิช ยังไม่ได้คุยอะไรกับเขาเลย ทำให้คาดเดาได้ยากว่าอนาคตจะเป็นอย่างไรต่อไป

ทีมสิงโตน้ำเงินครามเพิ่งจะบุกพ่ายต่อ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แบบยับเยิน 0-6 ซึ่งเมื่อพิจารณาจากผลงานที่ย่ำแย่ตลอดระยะหลัง ทำให้หลายคนมองว่าผู้จัดการทีมชาวอิตาเลียนน่าจะถูกทางสโมสรสั่งปลดในเร็วๆ นี้ ทว่าเจ้าตัวก็ยังเดาไม่ออกเหมือนกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น

“หากว่าประธานติดต่อผมเข้ามา ผมคงจะมีความสุข ได้ฟังอะไรในสิ่งที่ผมไม่เคยได้ยินจากเขา พูดตามตรงเลยว่าตอนนี้ผมไม่รู้ว่าต้องคาดหวังอะไรดี” ซาร์รี่ กล่าว

“ผมไม่รู้หรอก คุณคงต้องไปถามทางสโมสรกันเอาเอง ที่ผมกังวลก็คือทีมของผม และฟอร์มการเล่นในสนาม แต่งานของผมมันก็เป็นอะไรที่เสี่ยงตลอดเวลาอยู่แล้ว ดังนั้นผมจึงไม่ได้กังวลถึงมันเลย เอาเป็นว่าคุณไปถามทางสโมสรเอาเองก็แล้วกัน”

สำหรับความพ่ายแพ้ในครั้งนี้ของ เชลซี ถือว่าเป็นสกอร์ที่ขาดที่สุดที่พวกเขาเคยปราชัยมาในรายการใดๆ ก็ตาม นับตั้งแต่ปี 1991 เป็นต้นมา ขณะที่อันดับใน พรีเมียร์ ลีก ก็พ้นพื้นที่ท็อปโฟร์ลงมาแล้ว